การกำหนดมาตรฐานคุณภาพของครูในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ครูจะต้องทำกิจกรรม 7 อย่างคือ
1) การวิเคราะห์หลักสูตร
2) การวิเคราะห์ผู้เรียน
3) การจัดกิจกรรมที่หลากหลาย
4) การใช้เทคโนโลยีเป็นแหล่งและสื่อการเรียนรู้ของตนเองและนักเรียน
5) การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างรอบด้านและเน้นพัฒนาการ
6) การใช้ผลการประเมินเพื่อแก้ไขปรับปีรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ
7) การใช้การวิจัยปฏิบัติการในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนและการสอนของตน
จากประเด็นดังกล่าว นักศึกษาจะนำวิธีดังกล่าวมาจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เมื่อนักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียน
การจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมี ความรู้คู่คุณธรรม ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และมีวิสัยทัศน์ที่ดีกว้างไกล ดังนั้นการจัดการศึกษาจึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่ที่สำคัญของโรงเรียนที่ต้องจัดการศึกษามีการส่งเสริม และสนับสนุนให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมาตรฐานด้านปัจจัยกำหนดให้ครูมีความสามารถในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด๑.เป็นกระบวนการที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนและรู้จักรับผิดชอบ
หลักการที่สำคัญในการจัดการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีดังนี้
ด้วยตนเอง
๒.มีการเรียนรู้ หรือศึกษาการเรียนรู้ได้จากแหล่งต่าง ๆ มากมายไม่ใช่ศึกษาหาความรู้จากแหล่งเดียว หรือเพียงใน
ห้องเรียนเท่านั้น
๓.เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ค้นพบด้วยตนเอง
๔.เป็นกระบวนการที่มีส่วนช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ดี
๕.เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อการเรียนของผู้เรียน
๖.ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับชีวิตจริงของแต่ละบุคคลจากหลักการดังกล่าวจะนำไปสู่การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมและเป็นผุ้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองอย่างมีความสุขโดยครูผู้สอนต้องลดบทบาทและปรับเปลี่ยนกระบวนการของตนจากการเป็นผู้บอกความรู้ให้แก่ผู้เรียนมาเป็นผู้สนับสนุน ผู้ชี้แนะ ที่ปรึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนมากที่สุดตามศักยภาพของแต่ละบุคคล จัดประสบการณ์ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง โดยมีครูและนักเรียนร่วมกันบอกแหล่งความรู้
2) การวิเคราะห์ผู้เรียน
3) การจัดกิจกรรมที่หลากหลาย
4) การใช้เทคโนโลยีเป็นแหล่งและสื่อการเรียนรู้ของตนเองและนักเรียน
5) การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างรอบด้านและเน้นพัฒนาการ
6) การใช้ผลการประเมินเพื่อแก้ไขปรับปีรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ
7) การใช้การวิจัยปฏิบัติการในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนและการสอนของตน
จากประเด็นดังกล่าว นักศึกษาจะนำวิธีดังกล่าวมาจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เมื่อนักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียน
การจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมี ความรู้คู่คุณธรรม ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และมีวิสัยทัศน์ที่ดีกว้างไกล ดังนั้นการจัดการศึกษาจึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่ที่สำคัญของโรงเรียนที่ต้องจัดการศึกษามีการส่งเสริม และสนับสนุนให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมาตรฐานด้านปัจจัยกำหนดให้ครูมีความสามารถในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด๑.เป็นกระบวนการที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนและรู้จักรับผิดชอบ
หลักการที่สำคัญในการจัดการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีดังนี้
ด้วยตนเอง
๒.มีการเรียนรู้ หรือศึกษาการเรียนรู้ได้จากแหล่งต่าง ๆ มากมายไม่ใช่ศึกษาหาความรู้จากแหล่งเดียว หรือเพียงใน
ห้องเรียนเท่านั้น
๓.เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ค้นพบด้วยตนเอง
๔.เป็นกระบวนการที่มีส่วนช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ดี
๕.เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อการเรียนของผู้เรียน
๖.ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับชีวิตจริงของแต่ละบุคคลจากหลักการดังกล่าวจะนำไปสู่การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมและเป็นผุ้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองอย่างมีความสุขโดยครูผู้สอนต้องลดบทบาทและปรับเปลี่ยนกระบวนการของตนจากการเป็นผู้บอกความรู้ให้แก่ผู้เรียนมาเป็นผู้สนับสนุน ผู้ชี้แนะ ที่ปรึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนมากที่สุดตามศักยภาพของแต่ละบุคคล จัดประสบการณ์ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง โดยมีครูและนักเรียนร่วมกันบอกแหล่งความรู้
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 สัปดาห์ 4
กลุ่มสาระเรื่อง การเขียน เรื่องย่อย กระต่ายน้อยน่ารัก เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระการเรียนรู้
1. สาระการเรียนรู้
- สามารถจดบันทึกเรื่องกระต่ายน่ารักได้
2. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง / เนื้อหา
- นำความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องมาจดบันทึกลงในสมุดโดยเขียน
อธิบายและวาดภาพประกอบได้สวยงาม
3. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำ ( เวลา 10 นาที )
- ครูให้นักเรียนดูภาพกระต่ายพร้อมทั้งเล่าเรื่องที่ครูเคยพบเห็นมาให้นักเรียนฟัง
ขั้นจัดกิจกรรม ( เวลา 50 นาที )
1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 – 4 คนโดยให้นักเรียนอ่านเรื่องกระต่ายน้อยน่ารัก
พร้อมทั้ง
พร้อมทั้ง
2. ครูแจกใบงานเรื่องกระต่ายน้อยน่ารักแล้วให้แต่ละกลุ่มบันทึกความรู้เกี่ยวกับกระต่าย
ตามหัวข้อที่กำหนดพร้อมทั้งวาดภาพประกอบ
3. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมารายงานเรื่องกระต่ายน้อยน่ารักแล้วให้ ข้อคิดที่ได้จาก
เรื่องโดยมีครูเป็นผู้ชี้แนะ
ขั้นสรุป ( เวลา 10 นาที )
- ตัวแทนนักเรียนออกมาสรุปบทเรียนเรื่อง กระต่ายน้อยน่ารัก พร้อมบอกข้อคิดที่ได้
จากเรื่องให้เพื่อนฟัง
4. เครื่องมือวัดผลประเมินผล
- สังเกตการตอบคำถาม
- แบบฝึกหัดหลังเรียน
5. กระบวนการวัดและประเมินผล
- สังเกตการตอบคำถาม - การรายงานหน้าชั้น - การทำงานกลุ่ม
6. แหล่งการเรียนรู้
ตามหัวข้อที่กำหนดพร้อมทั้งวาดภาพประกอบ
3. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมารายงานเรื่องกระต่ายน้อยน่ารักแล้วให้ ข้อคิดที่ได้จาก
เรื่องโดยมีครูเป็นผู้ชี้แนะ
ขั้นสรุป ( เวลา 10 นาที )
- ตัวแทนนักเรียนออกมาสรุปบทเรียนเรื่อง กระต่ายน้อยน่ารัก พร้อมบอกข้อคิดที่ได้
จากเรื่องให้เพื่อนฟัง
4. เครื่องมือวัดผลประเมินผล
- สังเกตการตอบคำถาม
- แบบฝึกหัดหลังเรียน
5. กระบวนการวัดและประเมินผล
- สังเกตการตอบคำถาม - การรายงานหน้าชั้น - การทำงานกลุ่ม
6. แหล่งการเรียนรู้
- เอกสารประกอบการเรียน
7. สื่อการสอน
- ภาพกระต่าย
8. บันทึกผลหลังการสอน